Search
ดอกเทียนนกแก้ว
9088
9087
9086
9085
9084
9058
9057
9056
9051
9050
9049
9046
9045
9044
9043
9039
9038
9037
9033
8263
8634
8633
8632
8631
8630
8292
8291
8290
8289
8288
8287
8286
8285
8284
8283
8282
8281
8238
8237
8236
8235
8234
8233
8232
8231
8230
8229
8228
8227
8226
8225
8224
8223
8215
8214
8213
8120
8119
8118
8109
8108
8107
8106
8105
8104
7882
7881
7606
7605
7604
7518
7516
7342
7341
7329
7328
7326
7325
7321
7093
7092
7088
7017
7016
7015
7014
7012
7011
7010
4188
4187
4186
4185
4184
Picture information
Description:
ชื่อสามัญ : ดอกเทียนนกแก้ว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Impatiens psittaciana Hook.f.
วงศ์ : BALSAMINACEAE
ค้นพบ : เป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง พบขึ้นตามใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในป่าดิบเขาหรือบริเวณโขดหินปูนที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500-1,800 เมตร ปัจจุบันมีรายงานการพบเฉพาะบนดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เท่านั้น
ลักษณะ : พืชล้มลุก อายุหลายปี สูงได้ถึง 1.5 ม. ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลมขอบใบจักขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-6 ซม. ออกดอกเดี่ยวตามก้านใบ และปลายยอดดอกมีรูปร่างคล้ายนกแก้วกำลังกางปีกบินดูสวยงามสะดุดตาขนาดดอก 2-3 ซม. ดอกสีม่วงแกมแดงและขาว หรือสีชมพูเข้มแกมแดงและขาว กลางดอกมีแต้มสีเหลือง ดอกเป็นรูปหลอดกว้าง ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน สีชมพูอมขาวและมีจุดประสีม่วงแดง กลีบบนรูปขอบขนานมีขนาดยาวที่สุด ปลายกลีบแยกลึกเป็น 2 แฉก กลีบข้าง 2 กลีบแผ่เป็นปีกแคบ กลีบล่างแผ่เป็นปีกกว้าง ปลายกลีบเว้าเป็น 2 พู เกสรตัวผู้มัดรวมกันลักษณะม้วนงอ กลีบรองกลีบดอกเป็นรูปถ้วยปากบาน ส่วนโค้งเป็นถุง มีงวงน้ำหวานขนาดสั้นอยู่ท้ายสุด บริเวณที่ติดกับก้านดอกพองออกเป็นปีกโค้งกลม ๆ 2 ปีก ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซมออกดอกในราวเดือนสิงหาคม - ต้นเดือนธันวาคม
ที่มาข้อมูล : http://www.tourthai.com/gallery/flower/pic17455.shtml
ที่มาภาพ : http://www.tuphoto.net/webboard/attachment.php?attachmentid=1008&stc=1&d=1135107609
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Impatiens psittaciana Hook.f.
วงศ์ : BALSAMINACEAE
ค้นพบ : เป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง พบขึ้นตามใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในป่าดิบเขาหรือบริเวณโขดหินปูนที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500-1,800 เมตร ปัจจุบันมีรายงานการพบเฉพาะบนดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เท่านั้น
ลักษณะ : พืชล้มลุก อายุหลายปี สูงได้ถึง 1.5 ม. ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลมขอบใบจักขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-6 ซม. ออกดอกเดี่ยวตามก้านใบ และปลายยอดดอกมีรูปร่างคล้ายนกแก้วกำลังกางปีกบินดูสวยงามสะดุดตาขนาดดอก 2-3 ซม. ดอกสีม่วงแกมแดงและขาว หรือสีชมพูเข้มแกมแดงและขาว กลางดอกมีแต้มสีเหลือง ดอกเป็นรูปหลอดกว้าง ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน สีชมพูอมขาวและมีจุดประสีม่วงแดง กลีบบนรูปขอบขนานมีขนาดยาวที่สุด ปลายกลีบแยกลึกเป็น 2 แฉก กลีบข้าง 2 กลีบแผ่เป็นปีกแคบ กลีบล่างแผ่เป็นปีกกว้าง ปลายกลีบเว้าเป็น 2 พู เกสรตัวผู้มัดรวมกันลักษณะม้วนงอ กลีบรองกลีบดอกเป็นรูปถ้วยปากบาน ส่วนโค้งเป็นถุง มีงวงน้ำหวานขนาดสั้นอยู่ท้ายสุด บริเวณที่ติดกับก้านดอกพองออกเป็นปีกโค้งกลม ๆ 2 ปีก ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซมออกดอกในราวเดือนสิงหาคม - ต้นเดือนธันวาคม
ที่มาข้อมูล : http://www.tourthai.com/gallery/flower/pic17455.shtml
ที่มาภาพ : http://www.tuphoto.net/webboard/attachment.php?attachmentid=1008&stc=1&d=1135107609
Filesize:
68,08 KB (400 x 266 px)
Author:
nantawan
File size of the original picture:
71,33 KB (600 x 399 px)