Summary |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ คือ เครื่องหมายที่ใช้ประดับสำหรับเกียรติยศ หรือที่เรียกกันเป็นสามัญว่า "ตรา"
ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามแบบตะวันตก คือที่ใช้ติดประดับ
กับเสื้อ โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอันเป็นช่วงที่สยามประเทศมีการติดต่อกับ
ประเทศทางตะวันตกมากขึ้น พระองค์ได้ทรงริเริ่มสร้างดวงตรานอกเหนือจาก เครื่องยศสำหรับราชตระกูล
และขุนนางข้าราชบริพารที่มีอยู่แต่เดิม
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริให้สร้างดวงตราตามแบบตะวันตก แต่ทรงใช้ลวด
ลายและสัญลักษณ์แบบไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสวยงาม โดยนำลวดลายของตราประทับประจำ
พระองค์ อันได้แก่ ตราไอราพต และตราประจำตำแหน่ง ได้แก่ ตราคชสีห์อันเป็นตราประจำตำแหน่ง
สมุหกลาโหม ตราราชสีห์อันซึ่งเป็นตราประจำตำแหน่งสมุหนายก ตลอดจนอัญมณีนพรัตน์อันเป็นมงคล
มาแต่โบราณ มาเป็นต้นแบบในการสร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยทรงเรียกดาราเหล่านี้ในพระราชนิพนธ์
ว่า "เครื่องประดับสำหรับยศ" โดยที่เครื่องประดับของพระราชาทรงใช้คำว่า "เครื่องราชอิสริยยศ" ถ้าเป็น
เครื่องประดับสำหรับขุนนางทรงใช้คำว่า "เครื่องสำคัญยศ"
ในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ของฝรั่งเศส ท่านทรงส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น 1 สูงสุดของฝรั่งเศสมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริให้สร้างเหรียญตราขึ้นในพ.ศ.2400 โดยใช้สายสะพายเป็นสีเหลือง แถบสองข้างเป็นสีเขียวและมีดารานพรัตน์
ประดับด้วยอัญมณีพลอยเก้าประการ ส่งไปถวายพระเจ้านโปเลียนที่ 3 และสร้างเพื่อใช้ประดับเสื้อแสดงฐานะผู้ที่ได้รับพระราชทานด้วย โดย
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เรียกว่า เครื่องประดับสำหรับยศ ส่วนของพระมหากษัตริย์ทรงเรียกว่า เครื่องราชอิสริยยศ และเครื่องประดับขุนนางทรงเรียกว่า
เครื่องสำคัญยศ เมื่อถึงรัชกาลที่ 5 จึงเปลี่ยนมาเรียกว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ที่มา :
"ค่าควรเมือง ตอน 3: เครื่องราชอิสริยาภรณ์." กรุงเทพธุรกิจ. ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม 2550, หน้า 4.
"เครื่องราชอิสริยาภรณ์," อัพเดท. ปีที่ 23 ฉบับที่ 249 (มิถุนายน 2551), หน้า 105.
"พิพิธภัณฑสถานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย." บ้านเมือง. ฉบับวันที่ 28 ธันวาคม 2544, หน้า 23.
|