Search
ชาฤาษีพระราม
9088
9087
9086
9085
9084
9058
9057
9056
9051
9050
9049
9046
9045
9044
9043
9039
9038
9037
9033
8263
8634
8633
8632
8631
8630
8292
8291
8290
8289
8288
8287
8286
8285
8284
8283
8282
8281
8238
8237
8236
8235
8234
8233
8232
8231
8230
8229
8228
8227
8226
8225
8224
8223
8215
8214
8213
8120
8119
8118
8109
8108
8107
8106
8105
8104
7882
7881
7606
7605
7604
7518
7516
7342
7341
7329
7328
7326
7325
7321
7093
7092
7088
7017
7016
7015
7014
7012
7011
7010
4188
4187
4186
4185
4184
Picture information
Description:
ชื่อสามัญ : ชาฤาษีพระราม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trisepalum sp.nov.
วงศ์ : (GESNERIACBAB)
ค้นพบ : โดยดร.ปราโมทย์ ไตรภูมิ นักอนุกรมวิธานพืช จากพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพ กรมวิชาการเกษตรและกรมอุทธยานแห่งชาติแม่ปิง พบขึ้นตามบริเวณแก่งหน้าผาหินปูน ซึ่งมีสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.เชียงใหม่ ลำพูน ตาก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นพืชถิ่นเดียวของประเทศไทย
ลักษณะ : เป็นพุ่มสูง 20-60 ซม.ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม ใบรูปรี รูปขอบขนานหรือรูปไข่ กว้าง ปลายใบมน โคนใบรูปลิ่มหรือมน ขอบใบจักมน ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มมีขนประปราย ขอบใบ ช่อดอก ออกเป็นกระจุกสั้นที่ปลายยอด หรือตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกอ่อนมีขนสีขาวปกคลุมหนาแน่น มีใบประดับ 1 คู่ กลีบเลี้ยงเป็นหลอดรูปถ้วยปลายแยก 5 กลีบ กลีบดอกรูประฆัง ปลายแยก 5 แฉก สีชมพูหรือม่วงอ่อน ฐานกลีบคู่ล่างมีแต้มสีเหลือง เกสรเพศผู้ 2 อัน สีขาว รังไข่มีขนสั้นปกคลุมหนาแน่น ผลเป็นฝัก แห้งแตก บิดเป็นเกลียว ดอกบานช่วงฤดูฝนระหว่างเดือน กรกฎาคม-กันยายน ติดผลระหว่างเดือน ตุลาคม-ธันวาคม
ที่มาข้อมูล : http://www.takuyak.com/index.php?mo=3&art=167126
ที่มาภาพ : http://www.takuyak.com/article/art_167126.jpg
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trisepalum sp.nov.
วงศ์ : (GESNERIACBAB)
ค้นพบ : โดยดร.ปราโมทย์ ไตรภูมิ นักอนุกรมวิธานพืช จากพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพ กรมวิชาการเกษตรและกรมอุทธยานแห่งชาติแม่ปิง พบขึ้นตามบริเวณแก่งหน้าผาหินปูน ซึ่งมีสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.เชียงใหม่ ลำพูน ตาก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นพืชถิ่นเดียวของประเทศไทย
ลักษณะ : เป็นพุ่มสูง 20-60 ซม.ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม ใบรูปรี รูปขอบขนานหรือรูปไข่ กว้าง ปลายใบมน โคนใบรูปลิ่มหรือมน ขอบใบจักมน ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มมีขนประปราย ขอบใบ ช่อดอก ออกเป็นกระจุกสั้นที่ปลายยอด หรือตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกอ่อนมีขนสีขาวปกคลุมหนาแน่น มีใบประดับ 1 คู่ กลีบเลี้ยงเป็นหลอดรูปถ้วยปลายแยก 5 กลีบ กลีบดอกรูประฆัง ปลายแยก 5 แฉก สีชมพูหรือม่วงอ่อน ฐานกลีบคู่ล่างมีแต้มสีเหลือง เกสรเพศผู้ 2 อัน สีขาว รังไข่มีขนสั้นปกคลุมหนาแน่น ผลเป็นฝัก แห้งแตก บิดเป็นเกลียว ดอกบานช่วงฤดูฝนระหว่างเดือน กรกฎาคม-กันยายน ติดผลระหว่างเดือน ตุลาคม-ธันวาคม
ที่มาข้อมูล : http://www.takuyak.com/index.php?mo=3&art=167126
ที่มาภาพ : http://www.takuyak.com/article/art_167126.jpg
Filesize:
94,60 KB (278 x 400 px)
Author:
nantawan
File size of the original picture:
87,84 KB (400 x 574 px)