Search
There are 114 pictures in this category.
«« Start « Prev 1 [2] 3 4 … 7 … 9 … 11 … 14 15 Next » End »»
«« Start « Prev 1 [2] 3 4 … 7 … 9 … 11 … 14 15 Next » End »»
สัตววิืทยา
- ปลาหวีเกศพรุ
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ปลาหวีเกศพรุ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pseudeutropius indigens
วงศ์ : SCHILBEIDAE (ปลาสังกะวาด)
ค้นพบ : โดยดร.ชวลิต วิทยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ประจำโครงงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมาธิการลุ่มแม่น้ำ สำนักงานใหญ่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว พบระหว่างการสำรวจพันธุ์ปลาในป่าพรุ จากแหล่งน้ำคลองปลักปลา ใกล้กับโครงการพัฒนาพิกุลทองในพระราชดำริ และคลองรอบ ๆ พรุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส มาตั้งแต่ปี 2538 และถูกพบอาศัยในแม่น้ำสุไหงโก-ลก บริเวณลำน้ำสาขาของแม่น้ำปัตตานี แม่น้ำตาปี และอาจพบในแม่น้ำกลันตันของมาเลเซีย เป็นปลาพรุชนิดใหม่ของโลก ได้ตีพิมพ์เป็นทางการในวารสารนานาชาติ Zootaxa ในปลายปี 2554
ลักษณะ : คล้ายปลาสังกะวาด มีลักษณะเด่นที่ส่วนหัวเล็ก มีซี่กรองเหงือกจำนวน 33-35 อันที่โครงแรก และมีครีบก้นค่อนข้างยาว มีก้านครีบก้น 37-41 ก้าน ปากเล็ก มีฟันแหลมซี่เล็กๆ จำนวนมาก หนวดเส้นยาวเรียว ทั้ง 4 คู่ ยาวเลยครึ่งของลำตัว เป็นปลาหนังขนาดเล็ก มีความยาวลำตัว ประมาณ 7 เซนติเมตร
ที่มาข้อมูล : ไทยโพสต์ วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 http://www.thaipost.net/x-cite/200112/51322
ที่มาภาพ : http://www.siamensis.org/sites/default/files/imagecache/webboard_preview/5_-_8_-_03.jpg
- งูเขียวหางไหม้ภูเก็ต
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : งูเขียวหางไหม้ภูเก็ต
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trimeresurus (Popeia) phuketensis
วงศ์ : VIPERIDAE
ค้นพบ : โดยนักวิจัยสัตว์เลื้อยคลานประเทศไทย ค้นพบครั้งแรกที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต เมื่อ 5 ตุลาคม 2552 พบอาศัยบนต้นไม้สูงอยู่ในบริเวณป่าดิบชื้น
ลักษณะ : มีนิสัยค่อนข้างดุ ลำตัวเรียวยาว หางยาว หัวกว้างรูปสามเหลี่ยม และแบน คอเล็ก ตรงช่วงท้องเขียว สีลำตัวเป็นสีเขียว และมีลายสีน้ำตาลแดงพาดขวางทั้งเพศผู้ และเพศเมีย โดยเพศผู้จะมีลายชัดเจนและเป็นระเบียบ มีจุดขาวอมฟ้าตามแนวกลางหลัง ส่วนเพศเมียมีลายพาดกลางหลัง แต่ไม่คาดถึงขอบท้อง มีแถบสีน้ำตาลแดงและเส้นสีขาวอยู่ด้านบน และสีแดงด้านล่างจากคอถึงแนวทวาร หางมีแถบสีน้ำตาลแดง คาดเป็นบั้ง และไม่มีเส้นขอบหางตามยาว ใต้หางมีจุดประสีแดง และสีขาวบนสีเขียว มีการสืบพันธุ์โดยการออกลูกเป็นตัว ตั้งท้องประมาณ 3 เดือน ออกลูกครั้งละ 8-10 ตัว ตัวเต็มวัยจะมีความยาวประมาณ 1 ฟุต
ที่มาข้อมูล : http://news.mthai.com/general-news/146721.html
: "ค้นพบงูเขียวหางไหม้พันธ์ใหม่ของโลก," สยามจดหมายเหตุ ปีที่ 36 (ธันวาคม 2554) หน้า 1591.
ที่มาภาพ : http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201201/18/121617d.jpg
- กุ้งเต้น songkhlaensis
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : กุ้งเต้น songkhlaensis
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Kamaka songkhlaensis
วงศ์ : KAMAKIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.เสาวภา อังสุภานิช และคณะวิจัย จากภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.สงขลานครินทร์ พบในบริเวณห่างจากขอบชายฝั่งลงไปสู่กลางทะเลสาบ ซึ่งสภาพของน้ำและตะกอนดินโคลนยังมีความสะอาดอยู่บ้าง ตั้งชื่อชนิดตามสถานที่ที่พบ เป็นชนิดที่พบมากในทะเลสาบสงขลาตอนบน ซึ่งน้ำมีความเค็มต่ำ ประมาณ 1-4 ส่วนในพัน และพบแพร่กระจายลงมาได้บ้างในทะเลสาบสงขลาตอนกลางจนถึงตอนล่างบริเวณปากรอในช่วงฤดูฝนที่ความเค็มของน้ำลดลง
ลักษณะ : มีขนาด 2-3 มิลลิเมตร ขุดรูใต้น้ำเพื่ออยู่อาศัย
ที่มาข้อมูล : http://www.psu.ac.th/node/2054
ที่มาภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2010/05/11/images/pr_news_img_4049_2.jpg
- กุ้งเต้น appendiculata
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : กุ้งเต้น appendiculata
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Kamaka appendiculata
วงศ์ : KAMAKIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.เสาวภา อังสุภานิช และคณะวิจัย จากภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.สงขลานครินทร์ พบหนาแน่นในทะเลสาบสงขลาตอนล่างตั้งแต่บริเวณปากทะเลสาบถึงเกาะยอ เป็นชนิดที่พบมากในช่วงที่น้ำมีความเค็มสูงประมาณ 25-33 ส่วนในพัน จึงพบหนาแน่นในทะเลสาบสงขลาตอนล่างตั้งแต่บริเวณปากทะเลสาบถึงเกาะยอ โดยพบน้อยลงในช่วงฤดูฝนซึ่งน้ำมีความเค็มต่ำ
ลักษณะ : มีขนาด 2-3 มิลลิเมตร ขุดรูใต้น้ำเพื่ออยู่อาศัย ตั้งชื่อชนิดตามลักษณะเด่นของแผ่นที่โคนหนวดคู่ที่ 2
ที่มาข้อมูล : http://www.psu.ac.th/node/2054
ที่มาภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/home/media/2010/05/11/images/pr_news_img_4049_1.jpg
- ตุ๊กแกป่าจารุจินต์
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ตุ๊กแกป่าจารุจินต์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyrtodactylus jarujini ulber 1993
วงศ์ : GEKKONIDAE
ค้นพบ : บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย อาศัยในป่าดงดิบและใกล้ๆโพรง ค้นพบโดย อ. จารุจินต์ นภีตะภัฎ
ลักษณะ : ลำตัวมีสีน้ำตาล มีลวดลายเป็นแถบตามขวาง แบบแผนไม่แน่นอน ขนาดลำตัวยาว 9 เซนติเมตร จากปลายจมูกถึงก้น ด้านบนหัวมีลายจุด หางมีแถบพาดตามขวาง มีสีเข้มกระจายไปทั่วตัว
ที่มาข้อมูล http://www.thaibiodiversity.org/Life/LifeDetail.aspx?LifeID=42640
ที่มาภาพ http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=902
- ตุ๊กแกป่าน้ำหนาว
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ตุ๊กแกป่าน้ำหนาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyrtodactylus interdigitalis Ulber, 1993
วงศ์ : GEKKONIDAE
ค้นพบ : ในประเทศไทยบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ พบบ่อยบริเวณต้นไม้ ในเวลากลางคืน อาศัยอยู่ในป่าดงดิบ ค้นพบโดย อ.จารุจินต์ นภีตะภัฎ และคณะ
ลักษณะ: 41 ลักษณะ อยู่บริเวณต้นไม้พบในเวลากลางคืน ลำตัวสีน้ำตาล
ที่มาข้อมูล http://www.thaibiodiversity.org/Life/LifeDetail.aspx?LifeID=42638
ที่มาภาพ http://siamensis.org/taxonomy/term/900/0?page=1
- ปลาพลวงถ้ำ
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ปลาพลวงถ้ำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Neolissochilus subterraneus Vidthayanon & Kottelat, 2003
วงศ์ : CYPRINIDAE (ปลาตะเพียน)
ค้นพบ : โดยดร.ชวลิต วิทยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ประจำโครงงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมาธิการลุ่มแม่น้ำโขง เมื่อปี พ.ศ. 2546 พบเฉพาะในถ้ำพระวังแดง ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก แห่งเดียวในโลกเท่านั้น โดยปลาขนาดเล็กจะนิยมอยู่ใกล้ปากถ้ำหรือปล่องถ้ำ ส่วนปลาขนาดใหญ่จะอยู่ลึกกว่า
ลักษณะ : ปลาขนาดเล็กมีตาโต และลำตัวสีเงินจาง ขนาดความยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร รูปร่างคล้ายปลาพลวง ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกัน แต่หัวโตกว่า หลังค่อนข้างค่อมโค้ง ตาเล็กและมีหนังบาง ๆ คลุม เกล็ดมีขนาดใหญ่และบางมีสีขาวซีดอมชมพู กินอินทรียสารจากมูลค้างคาว
ที่มาข้อมูล : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3
ที่มาภาพ : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/1/1c/TravelPics_reply_25200.jpg
- ปลาค้อปล้องทองปรีดี
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ปลาค้อปล้องทองปรีดี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Schistura pridii Vidthayanon, 2003
วงศ์ : BALITORIDAE
ค้นพบ : โดยดร.ชวลิต วิทยานนท์ จากกลุ่มวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพสัตว์น้ำจืด สำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด พบที่ลำธารบนภูเขาสูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตั้งชื่อสายพันธุ์เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสของไทย
ลักษณะ : รูปร่างเรียวยาวคล้ายปลาไหล ลำตัวแบนข้าง หัวทู่สั้น ตาเล็ก มีหนวด 2 คู่อยู่เหนือปาก และใต้ปาก ลำตัวมีสีเหลืองสลับดำเป็นปล้อง ๆ มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 4 นิ้ว อาศัยอยู่ในลำธารน้ำที่ไหลแรงและเย็น ออกหากินในเวลากลางคืน เคลื่อนไหวว่องไวมาก กินแมลงน้ำ หรือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในลำธาร
ที่มาข้อมูล : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5
ที่มาภาพ : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/4/40/Schistura-pridii.jpg