Search
There are 114 pictures in this category.
«« Start « Prev 1 2 3 4 5 … 8 9 [10] 11 12 13 14 15 Next » End »»
«« Start « Prev 1 2 3 4 5 … 8 9 [10] 11 12 13 14 15 Next » End »»
สัตววิืทยา
- จิ้งจกนิ้วยาวคอจุด
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : จิ้งจกนิ้วยาวคอจุด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cnemaspis punctatonuchalis Grismer, Sumontha, Wood, Cota, Grismer, Pauwels & Kunya, 2010
วงศ์ : GEKKONIDAE
ค้นพบ : โดยกลุ่มอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม หรือ สยามเอ็นซิส (siamensis.org)
พร้อมด้วย กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าฯ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และองค์การสวนสัตว์ ในปัจจุบันพบเฉพาะเขต จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลักษณะ : บริเวณด้านข้างของคอมีจุดสีดำขนาดใหญ่และมีจุดสีขาวที่กลางจุดดำ อาศัยอยู่ตามหินในป่าดิบแล้ง
ที่มาข้อมูล : http://www.siamensis.org/species_index#3617--Species:%20Cnemaspis%20punctatonuchalis
ที่มาภาพ : http://www.zoothailand.org/images/stories/news_promote/8-Cnemaspis%20punctatonuchalis%20.jpg
- จิ้งจกนิ้วยาวคลองนาคา
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : จิ้งจกนิ้วยาวคลองนาคา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cnemaspis vandeventeri Grismer, Sumontha, Wood, Cota, Grismer, Pauwels & Kunya, 2010
วงศ์ : GEKKONIDAE
ค้นพบ : โดยกลุ่มอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม หรือ สยามเอ็นซิส (siamensis.org) พร้อมด้วย กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าฯ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และองค์การสวนสัตว์ พบในเขต จ. ระนอง พังงา และ ภูเก็ต
ลักษณะ : อาศัยตามต้นไม้เล็กๆ หรือเถาวัลย์ในป่าดิบชื้น โดยเฉพาะที่ไม่ไกลจากแหล่งน้ำไหลนัก เคยถูกจำแนกชนิดเป็น Cnemaspis siamensis
ที่มาข้อมูล : http://www.siamensis.org/species_index#3620--Species: %20Cnemaspis%20vandeventeri
ที่มาภาพ : http://www.zoothailand.org/images/stories/news_promote/5-Cnemaspis%20vandeventeri.jpg
- ไส้เดือนดินชนิดที่ 5
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ไส้เดือนดินชนิดที่ 5
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Metaphire grandipenes Bantaowong & Panha, 2011
วงศ์ : MEGASCOLECIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหานักวิจัยจากหน่วยปฏิบัติการวิจัยซิสเทมาติกส์ของสัตว์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – นักอนุกรมวิธานจุฬาสำรวจเกี่ยวกับไส้เดือนมาตั้งแต่ปี 2552 และประสบความสำเร็จในการค้นพบและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติในปี 2554 พบบริเวณพื้นที่ป่าชุมชน ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน
ลักษณะ : ขนาดปานกลางประมาณ 10 ซม. จำนวน 195 ปล้อง มีช่องรับสเปิร์ม (spermathecalpores) 3 คู่ ระหว่างปล้องที่ 5/6-7/8 ลักษณะเด่นของไส้เดือนชนิดนี้คือช่องเปิดเพศผู้ (male pores) ซึ่งอยู่บนปล้องที่ 18 ยื่นยาวออกมานอกลำตัวอย่างชัดเจนและมี genital markings ขนาดใหญ่อยู่บนปล้องที่ 19 ลักษณะภายในถุงรับสเปิร์ม (spermatheca) มีรูปไข่ค่อนข้างกลม diverticulum ขดไปมา และมี genital marking glands ขนาดใหญ่ติดอยู่บนปล้องที่ 19
ที่มาข้อมูล : http://www.thaisarn.com/th/news_reader.php?newsid=607000
ที่มาภาพ : http://pics.manager.co.th/Images/554000005744806.JPEG
- ไส้เดือนดินชนิดที่ 4
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ไส้เดือนดินชนิดที่ 4
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amynthas tontong Panha & Bantaowong, 2011
วงศ์ : MEGASCOLECIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา นักวิจัยจากหน่วยปฏิบัติการวิจัยซิสเทมาติกส์ของสัตว์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – นักอนุกรมวิธานจุฬาสำรวจเกี่ยวกับไส้เดือนมาตั้งแต่ปี 2552 และประสบความสำเร็จในการค้นพบและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติในปี 2554 พบที่น้ำตกต้นตอง อ. ปัว จ.น่าน
ลักษณะ : ขนาดเล็กยาวประมาณ 4 ซม. มีจำนวน 70-80 ปล้อง ลักษณะสำคัญคือมี มีช่องรับสเปิร์ม(spermathecal pores) 1 คู่อยู่ระหว่างปล้องที่ 7/8 ไคลเทลลัม (clitellum) อยู่ปล้องที่ 14-16 และมีช่องเปิดเพศเมีย 1 อันอยู่บนปล้องที่ 14 ส่วนช่องเปิดเพศผู้อยู่ปล้องที่ 18 เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน และมี genital markings 1 คู่ อยู่ระหว่างปล้องที่ 18/19 ลักษณะภายใน : ถุงรับสเปิร์ม (spermatheca) มีลักษณะคล้ายรูปนิ้วหัวแม่มือ diverticulum เป็นก้านตรงยาวส่วนปลายเป็นปุ่มกลม
ที่มาข้อมูล : http://www.thaisarn.com/th/news_reader.php?newsid=607000
ที่มาภาพ : http://pics.manager.co.th/Images/554000005744805.JPEG
- ไส้เดือนดินชนิดที่ 3
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ไส้เดือนดินชนิดที่ 3
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amynthas srinan Panha & Bantaowong, 2011
วงศ์ : MEGASCOLECIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา นักวิจัยจากหน่วยปฏิบัติการวิจัยซิสเทมาติกส์ของสัตว์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – นักอนุกรมวิธานจุฬาสำรวจเกี่ยวกับไส้เดือนมาตั้งแต่ปี 2552 และประสบความสำเร็จในการค้นพบและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติในปี 2554 พบค่อนข้างชุกชุมในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน โดยจะพบอาศัยอยู่ตามใต้ซากใบไม้ทับถมที่เปียกชื้น
ลักษณะ : ขนาดเล็กยาว 3-4 ซม. มีจำนวน 52-78 ปล้อง ลักษณะสำคัญของไส้เดือนชนิดนี้คือ มีช่องรับสเปิร์ม(spermathecal pores) 1 คู่อยู่ระหว่างปล้องที่ 7/8 ไคลเทลลัม (clitellum) อยู่ปล้องที่ 14-16 และมีช่องเปิดเพศเมีย 1 อันอยู่บนปล้องที่ 14 ส่วนช่องเปิดเพศผู้อยู่ปล้องที่ 18 เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน และลักษณะเด่นของไส้เดือนชนิดนี้ก็คือ มีgenital markings เป็นคู่ จำนวน 4 คู่ บนปล้องที่ 7, 8, 17 และ 18 ลักษณะภายใน ถุงรับสเปิร์ม (spermatheca) มีลักษณะคล้ายรูปไตอยู่ภายในปล้องที่ 8 และจะพบ genital marking glands มีลักษณะแบบมีก้านชูอยู่ตำแหน่งเดียวกับ genital marking ที่พบอยู่ด้านนอก
ที่มาข้อมูล : http://www.thaisarn.com/th/news_reader.php?newsid=607000
ที่มาภาพ : http://pics.manager.co.th/Images/554000005744803.JPEG
- ไส้เดือนดินชนิดที่ 2
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ไส้เดือนดินชนิดที่ 2
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amynthas phatubensis Panha & Bantaowong, 2011
วงศ์ : MEGASCOLECIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา นักวิจัยจากหน่วยปฏิบัติการวิจัยซิสเทมาติกส์ของสัตว์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – นักอนุกรมวิธานจุฬาสำรวจเกี่ยวกับไส้เดือนมาตั้งแต่ปี 2552 และประสบความสำเร็จในการค้นพบและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติในปี 2554 พบเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ตามเขาหินปูน บริเวณอุทยานถ้ำผาตูบ อ.เมือง จ. น่าน
ลักษณะ : ขนาดปานกลางยาว 8-15 ซม. มีจำนวน 85-114 ปล้อง ลักษณะสำคัญของไส้เดือนชนิดนี้คือ มีช่องรับสเปิร์ม (spermathecal pores) เพียง 1 คู่อยู่ระหว่างปล้องที่ 7/8ไคลเทลลัม (clitellum) อยู่ปล้องที่ 14-16 และมีช่องเปิดเพศเมีย 1 อันอยู่บนปล้องที่ 14 ช่องเปิดเพศผู้แม้ว่าจะมองเห็นได้ยากแต่ก็สามารถสังเกตได้จาก genitalmarkings ที่จะพบเป็นจำนวนมากประมาณ 6 อันเรียงรายอยู่โดยรอบช่องเปิดเพศผู้ นอกจากนี้ยังพบ genital markings จำนวน 1 คู่ บนปล้องที่ 17 และบริเวณใกล้ๆ กับช่องรับสเปิร์ม คือ ปล้องที่ 7 และ 8 อีกด้วย ลักษณะภายใน ลักษณะของถุงรับสเปิร์ม (spermatheca) เป็นถุงรูปไข่ขนาดใหญ่ และตรงโคน diverticulum จะคดงอแต่ส่วนปลายเป็นปุ่มกลม คือ พบ genital marking gland มีลักษณะเป็นก้อนติดอยู่กับผนังลำตัวด้านในตรงปล้องที่ 7 และ 8
ที่มาข้อมูล : http://www.thaisarn.com/th/news_reader.php?newsid=607000
ที่มาภาพ : http://pics.manager.co.th/Images/554000005744802.JPEG Amynthas phatubensis Panha & Bantaowong, 2011
- ไส้เดือนดินชนิดที่ 1
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ไส้เดือนดินชนิดที่ 1
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amynthas borealis Panha & Bantaowong, 2011
วงศ์ : MEGASCOLECIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา นักวิจัยจากหน่วยปฏิบัติการวิจัยซิสเทมาติกส์ของสัตว์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – นักอนุกรมวิธานจุฬาสำรวจเกี่ยวกับไส้เดือนมาตั้งแต่ปี 2552 และประสบความสำเร็จในการค้นพบและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติในปี 2554 พบอาศัยอยู่บริเวณเขาหินปูนซึ่งเป็นภูเขาเล็กๆ ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน และพื้นที่ป่าส่วนใหญ่กำลังถูกบุกรุกด้วยการแผ้วถางและเผาป่า
ลักษณะ : ขนาดเล็กยาว 4-5 เซนติเมตร มีจำนวนช่องรับสเปิร์ม (spermathecal pores) 1 คู่ระหว่างปล้องที่ 7/8 ไคลเทลลัม (clitellum) อยู่ปล้องที่ 14-16 และมีช่องเปิดเพศเมีย 1 อันอยู่บนปล้องที่ 14 ในขณะที่ช่องเปิดเพศผู้จำนวน 1 คู่ โดยระหว่างช่องเปิดเพศผู้บนปล้องที่ 18 จะนูนและมีสันยาวคมชัดขวางอยู่บนช่องเปิดเพศผู้ทั้งสอง ลักษณะภายในถุงรับสเปิร์ม (spermatheca) เป็นถุงขนาดใหญ่ diverticulum เป็นท่อยาว และไม่พบ genital marking glands (ช่องอวัยวะสืบพันธุ์)
ที่มาข้อมูล : http://www.thaisarn.com/th/news_reader.php?newsid=607000
ที่มาภาพ : http://pics.manager.co.th/Images/554000005744801.JPEG
- ตั๊กแตนตำข้าวกล้วยไม้
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ตั๊กแตนตำข้าวกล้วยไม้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hymenopus coronatus
วงศ์ : HYMENOPODIDAE
ค้นพบ : แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศ ลาว พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย ในประเทศไทย มีรายงานการพบที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ระยอง ระนอง
ลักษณะ : เพศเมียโตเต็มวัยอายุได้ราว 2 สัปดาห์ขึ้นไป ก็จะเริ่มจับคู่ผสมพันธุ์ หากแต่เพศเมียยังไม่พร้อมผสมพันธุ์ ถ้าเพศผู้พยายามเข้าไปผสมพันธุ์อาจถูกเพศเมียจับกินเป็นอาหารได้ หรือแม้แต่หลังการผสมพันธุ์ บ่อยครั้งที่เพศผู้จะถูกจับกิน เมื่อเพศเมียผสมพันธุ์ 15 – 30 วันเพศเมียจะเริ่มวางไข่ จากนั้นไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนและเปลี่ยนแปลงเป็นตัวเต็มวัยในที่สุด ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่มันกิน แต่โดยทั่วไป จะใช้เวลาราว 3 เดือนจึงจะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยที่พร้อมจะผสมพันธุ์ได้
ที่มาข้อมูล : http://www.dnp.go.th/FOREMIC/NForemic/this_month/Hymenopus/Hymenopus.htm
ที่มาภาพ : http://www.dnp.go.th/FOREMIC/NForemic/this_month/Hymenopus/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2.jpg