Search
There are 114 pictures in this category.
«« Start « Prev 1 2 … 4 … 6 … 8 … 12 13 [14] 15 Next » End »»
«« Start « Prev 1 2 … 4 … 6 … 8 … 12 13 [14] 15 Next » End »»
สัตววิืทยา
- ทากทะเล
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ไอ้เท่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aiteng ater
วงศ์ : AITENGIDAE
ค้นพบ : เป็นทากทะเลสปีชีส์ใหม่และวงศ์ใหม่ของโลกถูกค้นพบเมื่อพ.ศ. 2552 บริเวณร่องน้ำในป่าชายเลนที่อ่าวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี ที่นำโดย ดร. ซี สเวนเนน (Dr. C. Swennen) นักวิจัยจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และนายสมศักดิ์ บัวทิพย์ นักวิทยาศาสตร์ จากแผนกชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ลักษณะ : มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 6-17 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีดำ กินแมลงในระยะดักแด้เป็นอาหาร ซึ่งแตกต่างจากทากทะเลวงศ์อื่นๆ ที่มักกินสาหร่ายเป็นอาหาร สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ คล้ายกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั่วๆไป ซึ่งความพิเศษนี้พบได้น้อยมากในทากทะเลที่มีการค้นพบในปัจจุบัน
ที่มาข้อมูล : http://www.psu.ac.th/node/1379
ที่มาภาพ : http://www.oknation.net/blog/yutthawinai/2010/06/01/entry-2
- กบหัวใหญ่โคราช
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : กบหัวใหญ่โคราช(กบปากใหญ่โคราช)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Limnonectes megastomias McLeod
วงศ์ : RANIDAE
ค้นพบ : ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่บริเวณลำห้วยภายในป่าดงดิบ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2546 สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ต. ภูหลวง อ. วังน้ำเขียว จ. นครราชสีมา ค้นพบโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับนายเดวิด แม็กลอร์ด นักศึกษามหาวิทยาลัยแคนซัสสหรัฐอเมริกาและได้ขึ้นทะเบียนเป็นกบชนิดใหม่ของโลกเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2551
ลักษณะ : กบหัวใหญ่โคราชมีสีดำ ลำตัวค่อนข้างใหญ่ ยาว ส่วนของหัวค่อนข้างกว้าง แตกต่างจากกบชนิดอื่นๆ อาศัยอยู่ตามทางน้ำเพื่อจับกินแมลงและนก มักจะซ่อนตัวในเวลากลางวัน ใต้กองใบไม้ที่ทับถม หรือซอกหินตามลำห้วย และจะออกหากินในเวลากลางคืน
ที่มาข้อมูล : http://hilight.kapook.com/view/36925
ที่มาภาพ : http://www.infoforthai.com/forum/topic/3841
- หอยนักล่าเกลียวเชือก
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : หอยนักล่าเกลียวเชือก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Diaphera pirma Panha
วงศ์ : DIAPHERIDAE
ค้นพบ : โดยศ.ดร. สมศักดิ์ ปัญหา เป็นการค้นพบหอยวงศ์ใหม่ของโลก ซึ่งมีรูปร่างต่างจากหอยทั่วไป ค้นพบในแนวเขาหินปูน เฉพาะในภาคตะวันออกของไทยในเขต อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี, อ.เขาชะเมา จ.ระยอง และ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
ลักษณะ : เปลือกรูปทรงกระบอกเรียว มีสีขาวเวียนขวา ปลายยอดมนทู่ สูงประมาณ 4-5 มิลลิเมตร มี 8-9 ชั้น พบมากตามพื้นที่ที่ชื้น มีเศษซากใบไม้ทับถมเน่าเปื่อย มักหลบซ่อนอยู่ใต้ซากใบไม้ในตอนกลางวันและออกหากินหลังฝนตก ขณะที่มีอากาศชื้นและตอนกลางคืน โดยจะล่าหอยชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กและไข่แมลงต่างๆ เป็นอาหาร ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในพื้นที่ ในด้านการควบคุมประชากรแมลงไม่ให้มีมากจนเกินไป
ที่มาข้อมูล : http://www.thaifancyfish.com/index.php?mo=14&newsid=243400
ที่มาภาพ : http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=144157.0
- กบอกหนาม
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : กบอกหนาม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Paa fasciculispina
วงศ์ : RANIDAE
ค้นพบ : เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 ถิ่นอาศัยและการกระจายพันธุ์ของกบอกหนามชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความชื้น พบบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ค้นพบโดย นายสุขุม พงษ์พิพัฒน์ และคณะในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504
ลักษณะ : กบชนิดนี้มีรูปร่างโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับคางคก ในฤดูผสมพันธุ์กบตัวผู้จะมีกลุ่มหนามแหลมสีดำ กระจายกันอยู่บนแผ่นอกและใต้คาง เมื่อสิ้นฤดูผสมพันธุ์หนามเหล่านี้จะหลุดหายไป เหลือเพียงรอยสีคล้ำๆ ตรงตำแหน่งเดิม
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่มาภาพ : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=12-2010&date=17&group=72&gblog=60
- จิ้งเหลนด้วงปักธงชัย
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : จิ้งเหลนด้วงปักธงชัย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Davewakeum miriamae Heyer 1972
วงศ์ : SCINCIDAE
ค้นพบ : อาศัยอยู่ในดิน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณโคนไม้ใหญ่หรือตามซอกของไม้ใหญ่ และส่วนมากเป็นบริเวณที่มีเนื้อดินค่อนข้างร่วน พบเฉพาะประเทศไทยในพื้นที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จังหวัดนครราชสีมา พบในป่าดิบแล้ง ค้นพบโดย นายสุขุม พงษ์พิพัฒน์ และคณะ
ลักษณะ : ขนาดลำตัวยาวรูปทรงกระบอกขนาดเล็ก กว้าง 5-6 มม. หางสั้นกว่าลำตัว ปลายมน ข้างแข็ง เกล็ดลำตัวเรียบเป็นมัน มีขนาดตัวเล็ก ลำตัวสีน้ำตาลเหลืองหรือสีน้ำตาลดำ วางไข่ครั้งละ 2 ฟองประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่มาภาพ : http://www.tistr.or.th/sakaerat/Flora_Fauna/reptile/REPTILE1/%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf
- กิ้งกือมังกรสีชมพู
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : กิ้งกือมังกรสีชมพู
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Desmoxytes purpurosea
วงศ์ : PARADOXOSOMATIDAE
ค้นพบ : การค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลก และไทยได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับ 3 ของการค้นพบสิ่งมีชีวิตในครั้งนี้ ถูกค้นพบโดย ศ.ดร. สมศักดิ์ ปัญหา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาชิกชมรมคนรักกิ้งกือเมื่อเดือน พฤษภาคม 2550 ซึ่งพบในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลก
ลักษณะ : ลำตัวมีสีชมพูสด มีปุ่มหนามและขนรอบตัว โครงร่างคล้ายมังกร ป้องกันตัวจากศัตรูโดยการขับสารพิษประเภทไซยาไนด์ เพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรูธรรมชาติ เช่น หนูโดยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ กิ้งกือมีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ซึ่งทำให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ในประเทศไทยอีกมาก
ที่มาข้อมูล นงนุช ตั้งเกริกโอฬาร. “กิ้งกือมังกรสีชมพู”. รวมเล่มบทความรายการ วิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน เล่มที่ 33. กรุงเทพฯ : รวมเล่มบทความรายการ วิทยาศาสตร์เพื่อประชาชน เล่มที่ 33, 2553
ที่มาภาพ : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Shocking_pink_millipede.jpg
- กิ้งก่าภูวัว
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : กิ้งก่าภูวัว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mantheyus phuwaunensis (Manthey and Nabhitabhata, 1991)
วงศ์ : AGAMIDAE
ค้นพบ : พบในป่าเทือกเขาบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย โดยคณะสำรวจจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย อ. จารุจินต์ นภีตะภัฎ เมื่อปี พ.ศ. 2535
ลักษณะ : กิ้งก่าชนิดนี้จะอาศัยอยู่ตามก้อนหิน ทราย และหน้าผาหินทราย กินอาหารจำพวกแมลง และสัตว์เล็กๆที่อาศัยอยู่ตามก้อนหิน ลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากกิ้งก่าธรรมดาโดยทั่วไป คือ เมื่อหางขาดหรือหลุดออกไปก็สามารถงอกขึ้นมาใหม่ วางไข่บนผนังถ้ำ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่มาภาพ : http://www.siamensis.org/taxonomy/term/1122/0
- ค้างคาวคุณกิตติ
- Author: nantawan
-
Description: ชื่อสามัญ : ค้างคาวคุณกิตติ (ค้างคาวหน้าหมู)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Craseonycteris thonglongyai Hill, 1974
วงศ์ : CRASEONYCTERIDAE
ค้นพบ : ค้างคาวคุณกิตติค้นพบครั้งแรกปี พ.ศ. 2516 โดยนายกิตติ ทองลงยา นักสัตววิทยาของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ค้างคาวชนิดนี้จำกัดอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรีในแถบลุ่มน้ำของแม่น้ำแควน้อย ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค พบการกระจายตัวของค้างคาวมากที่สุด
ลักษณะ : เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มวัยมีน้ำหนักเพียง 2 กรัม ลักษณะที่สำคัญคือ ส่วนปากและจมูกยื่นออกมาหนา ลักษณะคล้ายจมูกหมู ค้างคาวชนิดนี้จะตกลูกเพียงครั้งละตัวในช่วงเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคม ค้างคาวหน้าหมูจัดเป็นสัตว์ป่าของโลกที่อยู่ในสภาวะที่ใกล้จะสูญพันธ์ที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่มาภาพ : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/3/3d/Craseongcteris_thonglongyai%29.jpg